โฮมเพจ » สวนที่กินได้ » การดูแลพืชสาโทเซนต์จอห์นวิธีการเติบโตสาโทเซนต์จอห์น

    การดูแลพืชสาโทเซนต์จอห์นวิธีการเติบโตสาโทเซนต์จอห์น

    หากคุณอาศัยอยู่ใน USDA พืชความแข็งแกร่งโซน 5 หรือ 6 ถึง 10 และมีไซต์ที่แรเงาบางส่วนคุณอาจเติบโตสาโทเซนต์จอห์น พืชไม่ได้เฉพาะเจาะจงกับชนิดของดิน มันเจริญเติบโตได้ดีในทรายดินเหนียวดินหินหรือดินร่วนและทนต่อค่า pH ที่เป็นกรดหรือด่างเล็กน้อย.

    สาโทเซนต์จอห์นปรับให้เหมาะกับดินที่ชื้นและแห้งและยังทนต่อน้ำท่วมเป็นครั้งคราว มันยังทนทานต่อความแห้งแล้ง แต่เติบโตได้ดีที่สุดกับการชลประทานในช่วงคาถาที่แห้งเป็นเวลานาน คุณจะไม่พบต้นพืชที่จะเติบโตได้ในหลาย ๆ สถานการณ์.

    วิธีการเติบโตสาโทเซนต์จอห์น

    การปลูกสมุนไพรสาโทเซนต์จอห์นในสถานที่ที่มีแสงแดดมากเกินไปอาจทำให้ใบไหม้เกรียมในขณะที่ร่มมากเกินไปจะช่วยลดจำนวนดอกไม้ สถานที่ที่ดีที่สุดคือสถานที่แห่งหนึ่งที่มีแสงแดดยามเช้าที่สดใสและร่มเงาเล็กน้อยในช่วงที่ร้อนที่สุดของช่วงบ่าย.

    หากดินของคุณไม่อุดมสมบูรณ์โดยเฉพาะเตรียมเตียงก่อนย้าย กระจายปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกประมาณ 2 นิ้วไปทั่วพื้นที่แล้วขุดลงไปลึกอย่างน้อย 8 นิ้ว ปลูกไม้พุ่มเข้าไปในสวนโดยวางไว้ที่ความสูงที่ปลูกในตู้ พวกมันเติบโตสูงเพียง 1 ถึง 3 ฟุตโดยมีการแพร่กระจาย 1.5 ถึง 2 ฟุตดังนั้นเว้นระยะห่างพวกเขา 24 ถึง 36 นิ้ว น้ำอย่างช้าๆและลึกลงไปหลังจากปลูกและทำให้ดินชุ่มชื้นจนกระทั่งพืชปลูกได้รับการยอมรับอย่างดี.

    โรงงาน Wort ของเซนต์จอห์นใช้

    สาโทเซนต์จอห์นทำให้ครอบคลุมพื้นดินที่น่าสนใจและดินโคลง เมื่อสร้างเสร็จแล้วพืชก็ไม่จำเป็นต้องดูแลและสิ่งนี้ทำให้มันเหมาะสำหรับสถานที่ที่อยู่นอกเส้นทาง นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้เป็นขอบหรือทำเครื่องหมายขอบเขตและเส้นทางที่คุณไม่ต้องการขัดขวางมุมมอง การใช้งานอื่น ๆ รวมถึงภาชนะสวนหินและการเพาะปลูก.

    สปีชี่ส์ปลูกพืชเองและกลายเป็นวัชพืชโดยเฉพาะสาโททั่วไปของนักบุญจอห์นH. perforatum) สายพันธุ์ไม้ประดับเป็นพืชที่มีพฤติกรรมดีและไม่น่าจะเติบโตได้ นี่คือบางสายพันธุ์ที่คุณอาจต้องการลอง:

    • H. x moserianum 'Tricolor' - พันธุ์นี้ถูกบันทึกไว้สำหรับใบไม้ที่แตกต่างกันด้วยสีรุ้งซึ่งรวมถึงสีแดง, ชมพู, ครีมและสีเขียว.
    • H. frondosum 'Sunburst' - นี่คือหนึ่งในสายพันธุ์ที่สามารถลดอุณหภูมิฤดูหนาวลงไปที่โซน 5 มันจะสร้างเนินดินที่มีความยาวไม่เกิน 2 ฟุต.
    • ซีรี่ส์ Hypearls รวมถึงสายพันธุ์ 'Olivia', 'Renu', 'Jacqueline' และ 'Jessica' ซีรี่ส์นี้เป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับภูมิอากาศร้อน.
    • H. calycinum 'Brigadoon' - ดอกไม้ในสายพันธุ์นี้ไม่เด่นชัดเหมือนกับดอกไม้อื่น ๆ แต่มีใบไม้ที่เปลี่ยนเป็นสีส้มสีทองในแสงอาทิตย์ส่องสว่าง.